ฟอร์ดแต่งตั้ง จิม ฟาร์ลีย์ ดำรงตำแหน่งประธาน
ฟอร์ดแต่งตั้ง จิม ฟาร์ลีย์ ดำรงตำแหน่งประธาน
ฟอร์ดแต่งตั้ง จิม ฟาร์ลีย์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สานต่อเป้าหมายปรับโฉมธุรกิจหลัง จิม แฮคเกตต์ ประกาศเกษียณอายุ
- จิม แฮคเกตต์ ผู้นำในการปรับโฉมธุรกิจของฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ตั้งแต่ปี 2560 จะเกษียณจากตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- จิม ฟาร์ลีย์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ จะเข้ารับตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟอร์ด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พร้อมรับการแต่งตั้งเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารฟอร์ด โดยฟาร์ลีย์จะทำงานร่วมกับจิม แฮคเกตต์ อย่างใกล้ชิดในช่วง 2 เดือนข้างหน้าเพื่อส่งมอบตำแหน่ง
บิล ฟอร์ด ประธานบริหารฟอร์ดกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงซีอีโอโดยไร้ช่องว่างในครั้งนี้ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของทีมผู้บริหารของฟอร์ด การวางแผนส่งต่องานที่ราบรื่น และสะท้อนความก้าวหน้าของบริษัทในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
เดียร์บอร์น, มิชิแกน, 5 สิงหาคม 2563 – ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี เผย จิม แฮคเกตต์ จะลงจากตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หลังจากเป็นผู้นำในการปรับโฉมธุรกิจของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2560 โดย จิม ฟาร์ลีย์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน และเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้
แฮคเกตต์ วัย 65 ปี และฟาร์ลีย์ วัย 58 ปี จะทำงานร่วมงานกันในอีก 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเป็นไปอย่างราบรื่น
ฟอร์ดภายใต้การนำของแฮคเกตต์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนายานยนต์อัจฉริยะ และมุ่งให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับโครงสร้างการทำงาน ปรับแผนผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัย และลดขั้นตอนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
“ผมขอขอบคุณจิม แฮคเกตต์เป็นอย่างมากสำหรับทุกอย่างที่เขาทำเพื่อปรับโฉมธุรกิจของฟอร์ดให้ทันสมัย รวมทั้งช่วยให้บริษัทพร้อมสำหรับการแข่งขัน และประสบความสำเร็จในอนาคต” บิล ฟอร์ด ประธานบริหารของฟอร์ดกล่าว “วิสัยทัศน์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของเรามีความชัดเจนมากขึ้น ทั้ง มัสแตง มัค-อี รถกระบะเอฟ-150 ใหม่ และรถในตระกูลบรองโก เรามีแผนงานสำหรับรถไฟฟ้าและยานพาหนะไร้คนขับ ตลอดจนการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบ บริษัทมีความคล่องตัวมากขึ้น เห็นได้ชัดจากการที่เราสามารถระดมกำลังได้อย่างรวดเร็วในการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตเพื่อรับมือกับโรคระบาดตั้งแต่ระยะแรก”
ฟาร์ลีย์ เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ในระดับโลก มีประวัติการทำงานที่ประสบความสำเร็จ และยังได้ทำงานร่วมกับแฮคเกตต์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาและนำแผนงาน Creating Tomorrow Together มาใช้ปรับโฉมธุรกิจของฟอร์ดให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีกำไรมากขึ้น
“จิม ฟาร์ลีย์ มีความรอบรู้ทั้งด้านยานยนต์และการดูแลลูกค้า มีสัญชาตญาณดีเยี่ยมเกี่ยวกับการวางแผนงานเพื่ออนาคต และการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์” บิล ฟอร์ด กล่าว “จิมเป็นคนที่หลงใหลในยานยนต์ และเป็นที่รู้กันดีว่าเขามีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ผมเองได้เห็นพัฒนาการของเขามาโดยตลอด ความมุ่งมั่นและการมองการณ์ไกลของเขาจะช่วยให้ฟอร์ดประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปในอนาคต”
ฟาร์ลีย์ เริ่มทำงานที่ฟอร์ดในปี พ.ศ. 2550 ในตำแหน่งประธานฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายระดับโลก จากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารแบรนด์รถยนต์ ลินคอล์น ผู้บริหารฟอร์ดในทวีปอเมริกาใต้ ฟอร์ด ยุโรป และตลาดนานาชาติ โดยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2562 ฟาร์ลีย์ได้เข้ารับตำแหน่งนประธานฝ่ายธุรกิจใหม่ เทคโนโลยี และกลยุทธ์ของฟอร์ด มีส่วนช่วยกำหนดทิศทางและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการขับเคลื่อนและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการทำใช้แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบอัตโนมัติและการขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ๆ โดยล่าสุด เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ฟาร์ลีย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของฟอร์ด
ด้านแฮคเกตต์ มีความมั่นใจว่าขณะนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการส่งมอบอำนาจบริหารต่อให้กับจิม ฟาร์ลีย์ โดยตนเองจะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษให้กับฟอร์ดจนถึงเดือนมีนาคม ปี 2564
“เมื่อผมเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป้าหมายของผมคือการเตรียมฟอร์ดให้พร้อมที่จะคว้าชัยชนะในอนาคต” แฮคเกตต์ กล่าว “ความท้าทายที่ยากที่สุดสำหรับบริษัทที่มีประวัติอันยาวนานและน่าภูมิใจ คือการปรับตัวเพื่อตอบโจทย์กับความท้าทายใหม่ๆ ที่โลกกำลังเผชิญ ผมภูมิใจกับแนวทางการทำงานที่พวกเราได้ช่วยกันปรับเปลี่ยนเพื่อสร้างฟอร์ดให้ทันสมัย และผมเชื่อมั่นในอนาคตของฟอร์ดเป็นอย่างยิ่ง”
“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผมได้ทำงานร่วมกับจิม ฟาร์ลีย์ อย่างใกล้ชิด ผมมีความมั่นใจในตัวของฟาร์ลีย์ และความสามารถในการเป็นผู้นำของเขา” แฮคเกตต์ กล่าว “ฟาร์ลีย์ มีบทบาทสำคัญในการรังสรรผลิตภัณฑ์และปรับเปลี่ยนธุรกิจของฟอร์ดในตลาดทั่วโลก และยังมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการนำพาฟอร์ดก้าวไปข้างหน้าด้วยการนำเสนอรถยนต์อัจฉริยะที่เหมาะสมกับโลกแห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะ”
ฟาร์ลีย์ กล่าวว่า “ผมรักฟอร์ดและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการเข้ารับตำแหน่งเพื่อทำงานร่วมกับพนักงานฟอร์ด ลูกค้า ผู้จำหน่าย ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน จิม แฮคเกตต์ ได้วางรากฐานที่แข็งแรงให้กับบริษัทเพื่ออนาคตที่สดใส และช่วยผลักดันการทำงานให้มีความคืบหน้าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ทำงานร่วมกับทีมฟอร์ดและผลักดันบริษัทให้เดินหน้าอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่เราคาดหวัง”
------------------------------------
Ford Announces Jim Hackett to Retire as President and CEO; Jim Farley to Succeed Hackett as Company Continues Transformation
- Jim Hackett, who has led Ford Motor Company’s transformation since 2017 as president and CEO, has elected to retire from the company
- Jim Farley, currently chief operating officer, becomes president and CEO of Ford effective Oct. 1. He was also elected to the Ford board of directors. He will work closely with Jim Hackett on the transition over the next two months
Seamless CEO transition underscores strength of Ford’s leadership team, succession planning, and company progress over the past three years, Executive Chairman Bill Ford says
Dearborn, Mich., Aug. 5, 2020 – Ford Motor Company today announced that Jim Hackett, who has led the company’s transformation since 2017, plans to retire from the company. Jim Farley has been named the company’s new president and CEO and will join the board of directors, effective Oct. 1.
Hackett, 65, and Farley, 58, will work together on a smooth leadership transition over the next two months.
Under Hackett, Ford moved aggressively into the new era of smart vehicles and drove a deeper focus on customers’ wants and needs. At the same time, Ford improved the fitness of the base business – restructuring operations, invigorating the product portfolio and reducing bureaucracy.
“I am very grateful to Jim Hackett for all he has done to modernize Ford and prepare us to compete and win in the future,” said Bill Ford, Ford’s executive chairman. “Our new product vision – led by the Mustang Mach-E, new F-150 and Bronco family – is taking shape. We now have compelling plans for electric and autonomous vehicles, as well as full vehicle connectivity. And we are becoming much more nimble, which was apparent when we quickly mobilized to make life-saving equipment at the outset of the pandemic.”
Farley, an automotive leader with deep global experience and a successful track record, collaborated with Hackett over the past three years to develop and execute Ford’s Creating Tomorrow Together plan to transform Ford into a higher-growth, higher-margin business.
“Jim Farley matches an innate feel for cars and customers with great instincts for the future and the new technologies that are changing our industry,” Bill Ford said. “Jim’s passion for great vehicles and his intense drive for results are well known, and I have also seen him develop into a transformational leader with the determination and foresight to help Ford thrive into the future.”
Farley joined Ford in 2007 as global head of Marketing and Sales and went on to lead Lincoln, Ford South America, Ford of Europe and all Ford global markets in successive roles. In April 2019, Farley was chosen to lead Ford’s New Businesses, Technology & Strategy team, helping the company determine how to capitalize on powerful forces reshaping the industry – such as software platforms, connectivity, AI, automation and new forms of propulsion. He was named chief operating officer in February of this year.
Hackett, who will continue as a special advisor to Ford through March of 2021, said the time is right to pass the mantle of leadership to Jim Farley.
“My goal when I took on the CEO role was to prepare Ford to win in the future,” Hackett said. “The hardest thing for a proud, long-lived company to do is change to meet the challenges of the world it’s entering rather than the world it has known. I’m very proud of how far we have come in creating a modern Ford and I am very optimistic about the future.
“I have worked side-by-side with Jim Farley for the past three years and have the greatest confidence in him as a person and a leader,” Hackett said. “He has been instrumental in crafting our new product portfolio and redesigning our businesses around the world. He is also a change agent with a deep understanding of how to lead Ford in this new era defined by smart vehicles in a smart world.”
Said Farley: “I love Ford and I am honored by the opportunity to serve and create value for Ford’s employees, customers, dealers, communities and all of our stakeholders. Jim Hackett has laid the foundation for a really vibrant future and we have made tremendous progress in the past three years. I am so excited to work together with the whole Ford team to realize the full potential of this great company in a new era.”